เราเตอร์ (Router) คืออะไร เลือกยังไงให้แรง ครอบคลุมทั่วบ้าน?

เราเตอร์

เคยไหม? ที่รู้สึกว่าอินเทอร์เน็ตที่บ้านช้าเหลือเกิน ทั้งๆ ที่สมัครแพ็กเกจความเร็วสูงแล้ว หรือสัญญาณ Wi-Fi ไปไม่ถึงบางมุมของบ้าน ปัญหาเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่เรียกว่า เราเตอร์ (Router) นั่นเอง บทความนี้จาก TreeMobile จะพาไปทำความรู้จักกับ เราเตอร์ ให้มากขึ้น พร้อมแนะนำวิธีเลือกซื้อให้ได้รุ่นที่แรงสะใจ สัญญาณครอบคลุมทั่วบ้าน ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เรียนออนไลน์ ดูซีรี่ย์ หรือเล่นเกม ก็ลื่นไหลไม่มีสะดุด หมดปัญหาเน็ตช้ากวนใจ

ลด
24%
Original price was: 1,450 ฿.Current price is: 1,100 ฿.
ลด
10%
Original price was: 1,100 ฿.Current price is: 990 ฿.
ลด
28%
Original price was: 1,600 ฿.Current price is: 1,150 ฿.

เราเตอร์ (Router) คืออะไร

หลายคนอาจสงสัยว่า เราเตอร์คือ อะไรกันแน่? พูดง่ายๆ เราเตอร์ (Router) คือ อุปกรณ์เครือข่ายที่ทำหน้าที่เป็นเหมือน "ตัวกลาง" หรือ "ผู้จัดการจราจรข้อมูล" ในระบบเน็ตบ้าน บทบาทหลักๆ ของ router คือ

  1. เชื่อมต่อเครือข่ายภายในบ้าน: เราเตอร์ทำหน้าที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน เช่น คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, สมาร์ททีวี ให้สามารถสื่อสารหากันได้ภายในเครือข่ายเดียวกัน (Local Area Network - LAN)
  2. เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต: เราเตอร์รับสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการ (ISP) ผ่านทางโมเด็ม (Modem) หรือผ่านสาย LAN/Fiber โดยตรงในบางกรณี แล้วกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตนั้นไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ ทั้งแบบใช้สาย (ผ่านพอร์ต LAN) และแบบไร้สาย (ผ่าน Wi-Fi)
  3. กำหนดเส้นทางข้อมูล (Routing): นี่คือหัวใจสำคัญของชื่อ "Router" มันทำหน้าที่เลือกเส้นทางที่ดีที่สุดในการส่งข้อมูล (Data Packets) ระหว่างอุปกรณ์ในเครือข่ายกับโลกอินเทอร์เน็ตภายนอก ทำให้ข้อมูลถูกส่งไปถึงปลายทางได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
  4. ทำหน้าที่เป็น DHCP Server: แจกจ่าย IP Address อัตโนมัติให้กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเข้ามาในเครือข่าย ทำให้ไม่ต้องตั้งค่า IP เองให้ยุ่งยาก
  5. ทำหน้าที่เป็น Firewall: ช่วยป้องกันภัยคุกคามเบื้องต้นจากอินเทอร์เน็ต ไม่ให้เข้าถึงอุปกรณ์ในเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

สรุปง่ายๆ ว่า หากไม่มีเราเตอร์ อุปกรณ์ต่างๆในบ้านก็ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตพร้อมกัน หรือสื่อสารกันได้อย่างสะดวกนั่นเองการติดไวไฟบ้านจึงจำเป็นต้องมีเราเตอร์เป็นหัวใจหลัก

ประเภทของเราเตอร์

เราเตอร์ในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท แต่ที่นิยมใช้งานกันทั่วไปตามบ้านและสำนักงานขนาดเล็ก แบ่งได้หลักๆ ดังนี้

1. เราเตอร์ไร้สาย (Wireless Router)

นี่คือประเภทที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน หรือที่เรียกติดปากกันว่า เร้าเตอร์ wifi หรือ เร้าเตอร์ไวไฟ นั่นเอง เราเตอร์ประเภทนี้จะรวมความสามารถของการเป็น Router เข้ากับ Access Point (ตัวกระจายสัญญาณ Wi-Fi) ไว้ในเครื่องเดียว ทำให้สามารถกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไปที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ มีทั้งรุ่นที่รองรับเฉพาะคลื่น 2.4GHz, รองรับ 2 คลื่น (Dual-Band: 2.4GHz และ 5GHz) และรุ่นใหม่ๆ ที่รองรับ 3 คลื่น (Tri-Band) รวมถึงเราเตอร์ 4g และเราเตอร์ 5g ที่สามารถใส่ซิมการ์ดเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง เหมาะสำหรับพื้นที่ที่สายอินเทอร์เน็ตเข้าไม่ถึง หรือต้องการเราเตอร์พกพา

2. เราเตอร์มีสาย (Wired Router)

เราเตอร์ประเภทนี้จะไม่มีฟังก์ชันการกระจายสัญญาณ Wi-Fi ในตัว การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ต้องทำผ่านสาย LAN เท่านั้น มักใช้ในองค์กร หรือในกรณีที่ต้องการความเสถียรสูงสุด และไม่เน้นการใช้งานแบบไร้สาย หรืออาจใช้ร่วมกับ Access Point แยกต่างหากเพื่อกระจายสัญญาณ Wi-Fi อีกทีหนึ่ง ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้ตามบ้านทั่วไปแล้ว

แนะนำเราเตอร์ เลือกรุ่นไหนดี?

การเลือกรุ่นเราเตอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเราเตอร์ใส่ซิมที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก หรืออยู่ในพื้นที่ที่สายอินเทอร์เน็ตเข้าไม่ถึง TreeMobile ขอแนะนำ 3 เราเตอร์ 4G ราคาถูก ที่น่าใช้งาน

1. TP-Link M7000

ภาพเราเตอร์พกพา TP-Link M7000 สีดำ

นี่คือเราเตอร์พกพาขนานแท้ ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใส่ซิม 4G แล้วแชร์ Wi-Fi ได้เลย เหมาะสุดๆ สำหรับคนเดินทางบ่อย หรือต้องการ Wi-Fi ส่วนตัวนอกสถานที่ รองรับ Dual-Band Wi-Fi (2.4GHz และ 5GHz) เพิ่มความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน

สเปค

รองรับ 4G LTE ดาวน์โหลดสูงสุด 150 Mbps / อัปโหลด 50 Mbps, แชร์ Wi-Fi ได้พร้อมกันสูงสุด 10 อุปกรณ์, แบตเตอรี่ 2000mAh ใช้งานได้นาน 8 ชั่วโมง, รองรับแอป tpMiFi จัดการง่ายผ่านมือถือ

เหมาะกับการใช้งาน

พกพาไปใช้นอกบ้าน, ทำงานนอกสถานที่, ใช้บนรถยนต์, เป็นเน็ตสำรองฉุกเฉิน, นักเรียนนักศึกษาที่ต้องการ Wi-Fi ส่วนตัว

2. TP-Link MR100

ภาพเราเตอร์ใส่ซิม TP-Link MR100 สีดำ พร้อมเสาสัญญาณ

เราเตอร์ใส่ซิม 4G LTE ยอดนิยม เราเตอร์tplink ราคาคุ้มค่า ติดตั้งง่ายแค่เสียบซิมการ์ดและอะแดปเตอร์ ก็พร้อมใช้งานได้ทันที มีเสาสัญญาณ 4G LTE ภายนอก 2 ต้น ช่วยรับสัญญาณได้ดีขึ้น และมีพอร์ต LAN 2 พอร์ตสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบใช้สาย

สเปค

รองรับ 4G LTE Cat4 ดาวน์โหลดสูงสุด 150 Mbps / อัปโหลด 50 Mbps, ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ความเร็วสูงสุด 300 Mbps (บนคลื่น 2.4GHz), 2 x พอร์ต LAN 10/100 Mbps (พอร์ต 1 ตั้งค่าเป็น WAN ได้), รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi สูงสุด 32 อุปกรณ์

เหมาะกับการใช้งาน

บ้านพักอาศัย, หอพัก, คอนโดที่ไม่มีสายอินเทอร์เน็ต, ร้านค้าขนาดเล็ก, สำนักงานชั่วคราว, พื้นที่อับสัญญาณเน็ตบ้าน

3. T3 Smart 4G CPE (C21)

ภาพเราเตอร์ใส่ซิม T3 Smart 4G CPE C21 สีขาว

เราเตอร์ใส่ซิม 4G LTE CPE เหมาะกับการวางในบ้านหรือออฟฟิศ ออกแบบมาเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านซิมการ์ดโดยเฉพาะ มีเสาอากาศ ช่วยให้รับสัญญาณ 4G และกระจาย Wi-Fi ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลายเครื่อง

สเปค

รองรับ 4G LTE, ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi, มีพอร์ต LAN สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบมีสาย, ตั้งค่าง่ายผ่าน Web UI

เหมาะกับการใช้งาน

บ้านพักอาศัย, โฮมออฟฟิศ, ร้านค้า

เคล็ดลับการเลือกซื้อเราเตอร์

เพื่อให้ได้เราเตอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด ลองพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ก่อนตัดสินใจซื้อ:

  1. ความเร็ว (Speed): เลือก เราเตอร์ ที่มีความเร็วรองรับแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่ใช้งานอยู่ หรือสูงกว่าเล็กน้อยเผื่ออนาคต ดูที่มาตรฐาน Wi-Fi (เช่น Wi-Fi 5/AC, Wi-Fi 6/AX, Wi-Fi 6E) และความเร็วสูงสุดที่ระบุ (หน่วยเป็น Mbps หรือ Gbps - ลองดูข้อมูลเกี่ยวกับkbps คืออะไรเพื่อเข้าใจหน่วยความเร็ว)
  2. รัศมีสัญญาณ (Coverage): พิจารณาขนาดของบ้านหรือพื้นที่ที่ต้องการให้สัญญาณครอบคลุม บ้านขนาดใหญ่หรือมีหลายชั้น อาจต้องการ เราเตอร์ ที่มีกำลังส่งสูง, มีเสาสัญญาณหลายต้น หรือพิจารณาระบบ Mesh Wi-Fi เพื่อการกระจายสัญญาณที่ดีขึ้น
  3. จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ: หากบ้านมีอุปกรณ์ที่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi พร้อมกันหลายชิ้น (คอมพิวเตอร์, มือถือ, แท็บเล็ต, Smart Home) ควรเลือกรุ่นที่รองรับเทคโนโลยี MU-MIMO (Multi-User, Multiple Input, Multiple Output) เพื่อการจัดสรรแบนด์วิธที่มีประสิทธิภาพ
  4. ย่านความถี่ (Frequency Bands):
    • Single-Band (2.4GHz): ราคาถูกกว่า สัญญาณไปได้ไกลกว่า แต่ความเร็วต่ำกว่าและอาจถูกรบกวนง่าย
    • Dual-Band (2.4GHz + 5GHz): นิยมที่สุด ย่าน 5GHz ให้ความเร็วสูงกว่าและสัญญาณรบกวนน้อยกว่า เหมาะกับอุปกรณ์ใหม่ๆ ส่วน 2.4GHz ใช้กับอุปกรณ์รุ่นเก่าหรืออยู่ไกลเราเตอร์
    • Tri-Band (2.4GHz + 5GHz + 5GHz/6GHz): ประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสำหรับบ้านที่มีอุปกรณ์เชื่อมต่อเยอะมาก หรือต้องการประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการเล่นเกม/สตรีมมิ่ง
  5. พอร์ตเชื่อมต่อ (Ports): ตรวจสอบจำนวนและความเร็วของพอร์ต LAN (ควรเป็น Gigabit Ethernet: 1000 Mbps) และพอร์ต WAN ให้เพียงพอต่อการใช้งาน และรองรับความเร็วอินเทอร์เน็ต
  6. ฟีเจอร์เสริม: เช่น พอร์ต USB สำหรับต่อ External HDD หรือ Printer, การรองรับ VPN, Quality of Service (QoS) สำหรับจัดลำดับความสำคัญการใช้งานอินเทอร์เน็ต, Parental Control ควบคุมการใช้งานของเด็ก
  7. ความปลอดภัย: เลือกรุ่นที่รองรับมาตรฐานความปลอดภัยล่าสุด เช่น WPA3
  8. งบประมาณ: ราคาเราเตอร์มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น เลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการใช้งาน

ขั้นตอนการติดตั้งเราเตอร์

การติดตั้ง เราเตอร์ ส่วนใหญ่ไม่ซับซ้อน สามารถทำได้ด้วยตัวเองตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:

  1. เชื่อมต่อสาย:
    • ต่อสายจากโมเด็ม (ที่มาจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต) เข้าที่พอร์ต WAN (มักจะเป็นสีที่แตกต่างจากพอร์ตอื่น หรือมีสัญลักษณ์เฉพาะ)
    • เสียบอะแดปเตอร์จ่ายไฟให้เราเตอร์
  2. เปิดเครื่อง: กดปุ่มเปิดเครื่อง (ถ้ามี) และรอให้เราเตอร์บูทระบบ สังเกตไฟสถานะ
  3. เชื่อมต่อกับเราเตอร์:
    • แบบใช้สาย: ใช้สาย LAN ต่อจากพอร์ต LAN ของเราเตอร์เข้ากับคอมพิวเตอร์
    • แบบไร้สาย: ใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือ ค้นหาสัญญาณ Wi-Fi ชื่อเริ่มต้น (SSID) และรหัสผ่านเริ่มต้น (มักจะอยู่บนสติกเกอร์ใต้เครื่องเราเตอร์) แล้วทำการเชื่อมต่อ
  4. เข้าหน้าตั้งค่า: เปิดเว็บเบราว์เซอร์ (Chrome, Firefox, Edge) แล้วพิมพ์ IP Address ของเราเตอร์ลงในช่อง Address bar (เช่น 192.168.1.1 หรือ 192.168.0.1 - ดูในคู่มือ) จากนั้นกรอก Username/Password เริ่มต้น (ดูในคู่มือหรือใต้เครื่อง) เพื่อล็อกอินเข้าสู่ระบบตั้งค่า
  5. ตั้งค่าพื้นฐาน (Setup Wizard): ส่วนใหญ่เราเตอร์จะมี Setup Wizard ช่วยตั้งค่าอัตโนมัติ หรือสามารถตั้งค่าเองได้ ดังนี้:
    • ตั้งค่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (WAN/Internet Setup): ส่วนใหญ่มักจะเป็น Dynamic IP หรือ PPPoE (ต้องใช้ Username/Password จาก ISP)
    • ตั้งค่า Wi-Fi (Wireless Setup): เปลี่ยนชื่อเครือข่าย (SSID) และตั้งรหัสผ่าน Wi-Fi ใหม่ที่คาดเดายาก เพื่อความปลอดภัย
    • เปลี่ยนรหัสผ่านเข้าเราเตอร์ (Admin Password): เปลี่ยนรหัสผ่านสำหรับล็อกอินเข้าหน้าตั้งค่า เพื่อป้องกันผู้อื่นเข้ามาแก้ไข
  6. อัปเดตเฟิร์มแวร์ (Firmware Update): หากมีเฟิร์มแวร์เวอร์ชันใหม่ ควรอัปเดตเพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ดีขึ้น
  7. รีสตาร์ท: หลังจากตั้งค่าเสร็จสิ้น ให้รีสตาร์ทเราเตอร์ แล้วลองทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

แนะนำซิมเทพสำหรับใส่เราเตอร์

สำหรับใครที่ใช้เราเตอร์ 4g หรือเราเตอร์ 5g แบบใส่ซิม หรือเราเตอร์พกพาการเลือกซิมการ์ดที่เหมาะสมก็สำคัญไม่แพ้กัน TreeMobile ขอแนะนำซิมเทพที่เหมาะกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านเราเตอร์โดยเฉพาะ

ซิมเทพธอร์ (เน็ตไม่อั้น 15Mbps รายปี)

ซิมเทพทรู 6Mbps (เน็ตไม่อั้น 6Mbps รายปี)

เลือกซิมเทพที่ตรงกับการใช้งาน และพื้นที่ให้บริการของเครือข่าย เพื่อให้ เราเตอร์ใส่ซิม ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และ TreeMobile ยังมีโปรโทรฟรีทุกเครือข่ายในซิมเทพตัวอื่นๆ ด้วย ลองเลือกชมได้เลย

คำถามที่พบบ่อย

1. เราเตอร์มีอายุการใช้งานกี่ปี?

โดยทั่วไปแล้วเราเตอร์มีอายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี Wi-Fi มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนเราเตอร์ใหม่ทุกๆ 3-4 ปี จะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีล่าสุด ทั้งในด้านความเร็ว ความเสถียร และความปลอดภัยที่ดีขึ้น แม้ว่าเราเตอร์ตัวเก่าจะยังใช้งานได้ แต่ประสิทธิภาพอาจไม่รองรับความเร็วอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ใหม่ๆ ได้เต็มที่

2. อยู่หอใช้เราเตอร์ตัวไหนดี?

การเลือกเราเตอร์สำหรับหอพักหรือคอนโด ขึ้นอยู่กับประเภทการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีให้

  • ถ้าหอพักมีสาย LAN ให้ สามารถซื้อเราเตอร์ไร้สาย (Wireless Router) ทั่วไปมาต่อเพื่อสร้าง Wi-Fi ส่วนตัวได้ เลือกรุ่นที่ไม่ต้องแรงมาก ขนาดกะทัดรัดก็เพียงพอ
  • ถ้าหอพักไม่มีอินเทอร์เน็ตให้ หรือสัญญาณไม่ดี อาจพิจารณาใช้เราเตอร์ 4g/เราเตอร์ 5g แบบใส่ซิม หรือ เราเตอร์พกพา (Pocket Wi-Fi) คู่กับซิมเทพ จะสะดวกและใช้งานได้ส่วนตัว แต่ต้องตรวจสอบสัญญาณเครือข่ายมือถือในพื้นที่นั้นๆ ก่อน

เลือกซื้อเราเตอร์ ได้ที่ Tree-Mobile

การเลือกเราเตอร์ที่เหมาะสมเป็นก้าวสำคัญสู่ประสบการณ์อินเทอร์เน็ตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะกำลังมองหา เร้าเตอร์ wifi สำหรับบ้าน, เราเตอร์ 4g/5g สำหรับใช้งานนอกสถานที่ หรือ เราเตอร์ราคาสุดคุ้ม TreeMobile มีตัวเลือกหลากหลาย พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

เข้ามาเลือกชมและสั่งซื้อเราเตอร์คุณภาพพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษได้แล้ววันนี้ที่ https://www.tree-mobile.com/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!