การใช้งานระบบหลังบ้าน (Backend User Manual)

สารบัญ

  1. Login
  2. Dashboard
  3. การเพิ่ม/แก้ไขรายการสินค้า
    3.1 การเพิ่มรายการสินค้าแบบทั่วไป
    3.2 การเพิ่มรายการสินค้ามีหลายแบบ
  4. การจัดการคำสั่งซื้อ
  5. ข่าว บทความ
  6. ขนาดรูป แบนเนอร์
  7. ระดับผู้ใช้งาน (User Role)

1. Login

Login Page : ตามที่แจ้ง
Username: ตามที่แจ้ง
Password: ตามที่แจ้ง


2. Dashboard

หลังจากLoginเรียบร้อย จะพบหน้าDashboard (แผงควบคุม) เป็นหน้าหลักของระบบหลังบ้าน

หน้า Dashboard (แผงควบคุม)


3. การเพิ่ม/แก้ไขรายการสินค้า

การเพิ่มสินค้า มี 2 แบบ คือ

  • สินค้าแบบทั่วไป ไม่มีตัวเลือกคุณสมบัติ
  • สินค้ามีหลายแบบ มีตัวเลือกของคุณสมบัติสินค้า เช่น สี ขนาด หรือคุณสมบัติเฉพาะตัวอื่นๆ

3.1 การเพิ่มรายการสินค้าแบบทั่วไป

ที่เมนูด้านซ้าย เลือก “สินค้า” > “เพิ่ม”

หน้าเพิ่มสินค้า

อธิบายหน้าเพิ่มสินค้า

1) ชื่อสินค้า
ใส่ชื่อสินค้า (ตัวอักษร,ตัวเลข) การกำหนดชื่อสินค้ามีผลมากต่อ Search Engine

2) คำอธิบายสินค้า
ระบุคำอธิบายสินค้า สามารถเนื้อหาได้หลากหลายรูปแบบทั้งข้อความ รูปภาพ ไอคอน แทรกรูปภาพ iframe ตราราง สามารถcopyรูปแบบเอกสารต่างๆจากMS Word, Excel หรือ Facebookได้

3) ข้อมูลสินค้า
ในกรณีให้เลือก “สินค้าทั่วไป”

4) ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม
เป็นการระบุข้อมูลเฉพาะตัวของสินค้า ตามายการดังนี้

4.1) ทั่วไป ระบุราคาสินค้า

4.2) สินค้าคงคลัง
– รหัสสินค้า
(SKU) ระบุรหัสเฉพาะตัวของสินค้า 1สินค้าต่อ1รหัส แนะนำให้ใช้ภาษาอังกฤษและตัวเลข เช่น iphone11-promax
– จัดการคลังสินค้า ? ให้เปิดใช้งานการจัดการคลังสินค้าที่ระดับสินค้า เพื่อระบุจำนวนสินค้าในสต๊อก

4.3) การจัดส่ง ระบุข้อมูลของสินค้าเพื่อนำไปใช้คำนวนในการจัดส่ง และต้องเลือกประเภทการจัดส่งให้ตรงตามประเภทสินค้า เช่น สินค้าเป็นมือถือให้เลือกประเภทการจัดส่งเป็น “Phone”

4.4) สินค้าที่เชื่อมโยง เลือกสินค้าอื่นๆที่ใกล้เคียงหรือเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน

4.5) คุณสมบัติ เลือกคุณสมบัติต่างๆของสินค้า จากเมนูDropdown
“ปรับแต่งคุณสมบัติสินค้า” > เลือกคุณสมบัติ > กดปุ่ม”เพิ่ม” > ระบุค่าคุณสมบัติ > กดปุ่ม”บันทึกคุณสมบัติ”

4.6) Custom Tabs เพิ่มTab ข้อมูลสินค้า ด้านล่างหน้าสินค้า ในตัวอย่างเป็นการเพิ่มTab เงื่อนไขการประกัน

Custom Tabs

5) คำอธิบายสินค้าอย่างสั้น

ระบุคำอธิบายสินค้าอย่างสั้นตามตัวอย่างด้านล่าง

คำอธิบายสินค้าอย่างสั้น

6) หมวดหมู่สินค้า

เลือกหมวดหมู่สินค้า อย่างน้อย1รายการ

7) ป้ายกำกับสินค้า(Tag)

ในกรณี จะใช้ป้ายกำกับสินค้าในการคัดกรอง(Filter) สินค้าให้แสดงตามหน้า, หัวข้อ, เนื้อหาต่างๆ ตามที่เรากำหนดเช่น
ระบุtag “bestseller” เพื่อให้แสดงสินค้านี้ในหัวข้อสินค้าขายดี

8) รูปภาพสินค้า

รูปภาพสินค้าที่ใช้แสดงในหน้ารวมสินค้า

9) แกลเลอรี่สินค้า

รูปภาพเพิ่มเติมของสินค้า (options)

10) บันทึกฉบับร่าง

บันทึกไว้แก้ไขภายหลัง

11) ดูก่อน

ดูตัวอย่างก่อนนำขึ้นเผยแพร่บนเว็บไซต์

12) เผยแพร่

เผยแพร่หน้านี้บนเว็บไซต์


3.2 การเพิ่มรายการสินค้าแบบหลายแบบ

ที่เมนูด้านซ้าย เลือก “สินค้า” > “เพิ่ม”

หน้าเพิ่มสินค้า

อธิบายหน้าเพิ่มสินค้า

1) ชื่อสินค้า
ใส่ชื่อสินค้า (ตัวอักษร,ตัวเลข) การกำหนดชื่อสินค้ามีผลมากต่อ Search Engine

2) คำอธิบายสินค้า
ระบุคำอธิบายสินค้า สามารถเนื้อหาได้หลากหลายรูปแบบทั้งข้อความ รูปภาพ ไอคอน แทรกรูปภาพ iframe ตราราง สามารถcopyรูปแบบเอกสารต่างๆจากMS Word, Excel หรือ Facebookได้

3) ข้อมูลสินค้า
ในกรณีให้เลือก “สินค้าหลายแบบ”

4) ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม
เป็นการระบุข้อมูลเฉพาะตัวของสินค้า ตามายการดังนี้

4.1) สินค้าคงคลัง
– รหัสสินค้า
(SKU) ระบุรหัสเฉพาะตัวของสินค้า 1สินค้าต่อ1รหัส แนะนำให้ใช้ภาษาอังกฤษและตัวเลข เช่น iphone11-promax
– จัดการคลังสินค้า ? ให้เปิดใช้งานการจัดการคลังสินค้าที่ระดับสินค้า เพื่อระบุจำนวนสินค้าในสต๊อก

4.2) การจัดส่ง ระบุข้อมูลของสินค้าเพื่อนำไปใช้คำนวนในการจัดส่ง และต้องเลือกประเภทการจัดส่งให้ตรงตามประเภทสินค้า เช่น สินค้าเป็นมือถือให้เลือกประเภทการจัดส่งเป็น “Phone”

4.3) สินค้าที่เชื่อมโยง เลือกสินค้าอื่นๆที่ใกล้เคียงหรือเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน

4.4) คุณสมบัติ เลือกคุณสมบัติต่างๆของสินค้า จากเมนูDropdown
“ปรับแต่งคุณสมบัติสินค้า” > เลือกคุณสมบัติ > กดปุ่ม”เพิ่ม” > ระบุค่าคุณสมบัติ > กดปุ่ม”บันทึกคุณสมบัติ”

*เลือก “ใช้สำหรับรูปแบบ” เมื่อต้องการให้คุณสมบัตินี้ แสดงในรูปแบบสินค้า (สี,Ram,พื้อที่จัดเก็บ,…)

4.5) รูปแบบ ระบุค่าเฉพาะของสินค้าในแต่ละรูปแบบที่กำหนด เช่น iPhone สีBlack ราคา 1,234 มีในสต๊อก 3ชิ้น / iPhone สีGold มีในสต๊อก 2ชิ้น ราคา 5,678

“เพิ่มความแตกต่าง” > เลือกหัวข้อ > กดปุ่ม”ไป” > ระบุค่าต่างๆ (รูปภาพ,ราคา,ปริมาณสินค้าในคลัง) > กดปุ่ม”บันทึกการเปลี่ยนแปลง”

4.6) Swatches Settings ตั้งค่าสีสำหรับสินค้า ข้อมูลจะปรากฏตามตัวอย่าง

4.7) Custom Tabs เพิ่มTab ข้อมูลสินค้า ด้านล่างหน้าสินค้า ในตัวอย่างเป็นการเพิ่มTab เงื่อนไขการประกัน

Custom Tabs

5) คำอธิบายสินค้าอย่างสั้น

ระบุคำอธิบายสินค้าอย่างสั้นตามตัวอย่างด้านล่าง

คำอธิบายสินค้าอย่างสั้น

6) หมวดหมู่สินค้า

เลือกหมวดหมู่สินค้า อย่างน้อย1รายการ

7) ป้ายกำกับสินค้า(Tag)

ในกรณี จะใช้ป้ายกำกับสินค้าในการคัดกรอง(Filter) สินค้าให้แสดงตามหน้า, หัวข้อ, เนื้อหาต่างๆ ตามที่เรากำหนดเช่น
ระบุtag “bestseller” เพื่อให้แสดงสินค้านี้ในหัวข้อสินค้าขายดี

8) รูปภาพสินค้า

รูปภาพสินค้าที่ใช้แสดงในหน้ารวมสินค้า

9) แกลเลอรี่สินค้า

รูปภาพเพิ่มเติมของสินค้า (options)

10) บันทึกฉบับร่าง

บันทึกไว้แก้ไขภายหลัง

11) ดูก่อน

ดูตัวอย่างก่อนนำขึ้นเผยแพร่บนเว็บไซต์

12) เผยแพร่

เผยแพร่หน้านี้บนเว็บไซต์


4. การจัดการคำสั่งซื้อ

  1. เมื่อลูกค้ามีการสั่งซื้อสินค้าเข้ามา จะได้รับอีเมลรายการสั่งซื้อสินค้า 1 ฉบับ ส่วนลูกค้าก็จะได้รับอีเมลรายสั่งซื้อสินค้า 1 ฉบับด้วยเช่นกัน
  2. การจัดการคำสั่งซื้อ
    ที่เมนูด้านซ้าย ไปที่ “Woocommerce” > “คำสั่งซื้อ” > จะมีการแจ้งเตือนว่ามี order ใหม่เข้ามา และที่ตรงสถานะออร์เดอร์ จะเป็น “รอแจ้งชำระเงิน”
  1. รอการชำระเงินและแจ้งโอนเงินจากลูกค้า

เมื่อลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีมาแล้ว และแจ้งชำระการเงินผ่านทางหน้าฟอร์มชำระเงินเรียบร้อยแล้ว สถานนะของ order จะเปลี่ยนเป็น “กำลังเตรียมสินค้าเพื่อจัดส่ง”

4. เมื่อรับเงินลูกค้าและจัดส่งของเสร็จเรียบร้อย ให้คลิกเข้าไปที่orderนั้น

1) เปลี่ยน Order Status เป็น “ส่งของแล้ว”
2) กรอก Tracking number
3) แล้วคลิก “อัพเดท”


5. ข่าว / บทความ

ที่เมนูหลักด้านซ้าย ไปที่เมนู “เรื่อง” > เขียนเรื่องใหม่

5.1 ใส่ชื่อ
ระบุชื่อหัวข้อ(ตัวอักษร,ตัวเลข) การกำหนดชื่อหัวข้อมีผลมากต่อ Search Engine

5.2 เนื้อหา
สามารถเนื้อหาได้หลากหลายรูปแบบทั้งข้อความ รูปภาพ ไอคอน แทรกรูปภาพ iframe ตราราง สามารถcopyรูปแบบเอกสารต่างๆจากMS Word, Excel หรือ Facebookได้

5.3 หมวดหมู่
ระบุหมวดหมู่ของบทความอย่างน้อย 1 หัวห้อ (ข่าว, บทความ, รีวิว)

5.4) รูปประจำเรื่อง
รูปที่ใช้แสดงในหน้ารวมข่าว / บทความ

5.5) บันทึกฉบับร่าง
บันทึกไว้แก้ไขภายหลัง

5.6) ดูก่อน
ดูตัวอย่างก่อนนำขึ้นเผยแพร่บนเว็บไซต์

5.7) เผยแพร่
เผยแพร่หน้านี้บนเว็บไซต์


6. ขนาดรูป แบนเนอร์

รูปที่ใช้ในเว็บทุกรูป ต้อง Save for web, Resolution(ความละเอียด) 72 ppi, format .jpg or .png เท่านั้น

1) Herobanner รูปในสไลด์หน้าแรก

ขนาดที่แนะนำ กว้าง 1920px สูง 730px โดยต้องเว้นระยะข้อความหรือเนื้อหาสำคัญ จากขอบรูปด้านล่างอย่างน้อย 60px เพื่อเลี่ยงการโดน Bullet ของ Slider ทับเนื้อหา

2) รูปสินค้า

ใช้รูปเดียวกันกับที่ลงในshopeeได้เลย ขนาดที่แนะนำ กว้าง 900px สูง 900px (สัดส่วน 1:1)

2) รูปปก ข่าว / บทความ และแบนเนอร์ทั่วๆไป

ขนาดที่แนะนำ กว้าง 1920px สูง 1080px (สัดส่วน 16:9)


7. ระดับผู้ใช้งาน (User Role)

1) Administrator หรือ ผู้ควบคุมระบบ
เป็น Role ขั้นสูงสุด สามารถจัดการได้ทุกอย่างในระบบ

2) Store Manager หรือ ผู้จัดการร้าน
เป็นRoleหลักที่แต่งตั้งให้ผู้เข้าใช้งานระบบ สามารถเข้าไปแก้ไข,จัดการข้อมูลสินค้าและStockสินค้าได้

3) Editor หรือ ผู้ตรวจทาน
Role นี้เป็นผู้ตรวจทาน สามารถแก้ไขโพสและเผยแพร่ Post ได้ทั่วไป

4) Author หรือ ผู้เขียน
Role นี้สำหรับผู้เขียนอย่างเดียว สามารถโพสได้ แก้ไข และเผยแพร่ได้เฉพาะ โพสของตัวเอง

5) Contributor หรือ ผู้เขียนร่วม
Role นี้จะคล้ายกับผู้เขียน ก็คือ สามารถโพส และแก้ไขโพสของตัวเองได้ แต่ไม่สามารถเผแพร่ได้ ต้องรอผู้ตรวจทานมาเผยแพร่ให้

6) Subscriber หรือ ผู้ใช้งานทั่วไป
คือผู้ใช้งานทั่วไปที่เข้ามาสมัครสมาชิกเว็บ เพื่อคอมเมนต์ หรือดูข้อมูลสำหรับสมาชิกได้ครับ แต่ไม่สามารถใช้งานระบบหลังบ้านได้